นอกจากนี้ถุงพลาสติกยังช่วยรักษาสภาพแวดล้อม โดยใช้พลังงานในการผลิตน้อยกว่าถุงกระดาษ เพราะการผลิตถุงกระดาษต้องใช้พลังงานมากกว่าการผลิตถุงพลาสติกมากกว่า 40% และการผลิตถุงกระดาษส่งผลให้เกิดมลพิษทางน้ำ 50 เปอร์เซ็นต์และมลพิษทางอากาศมากกว่าการผลิตพลาสติก 70 เปอร์เซ็นต์ โดยกระบวนการผลิตถุงพลาสติกนั้นปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Green House Effect Gas) สู่สิ่งแวดล้อมน้อยกว่าถุงกระดาษ และถุงพลาสติกยังนํามาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าได้โดยการเผาไหม้ถุงพลาสติก และยังพบว่าปริมาณก๊าซซัลเฟอร์(sulphur)ที่เกิดขึ้นหลังจากเผาไหม้มีน้อยกว่าถ่านหิน และนี่คือข้อดีของถุงพลาสติก อย่าลืมนำมาวนใช้ซ้ำ และรีไซเคิล
ถุงพลาสติก นอกจากจะนิยมนำมาบรรจุของ ยังสามารถนำมาใช้เพื่อคลุมสินค้า เพื่อการส่งออก หรือรักษาสภาพ ถนอมสินค้าจากฝุ่น ละอองน้ำ หรือสิ่งสกปรกต่างๆอีกด้วย นิยมใช้ในกลุ่มงานอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ
ข้อดีของการใช้ถุงพลาสติก
- ใช้ได้บ่อยครั้งตามที่ต้องการ ช่วยลดต้นทุน เนื่องจากสามารถนำมาใช้ซ้ำ (Reuse)
- น้ำหนักเบา ไม่กินพื้นที่ในการเก็บ
- ใช้งานง่าย เพียงนำมาห่อบรรจุหรือห่อหุ้มสินค้า
- สามารถซ่อมได้เมื่อชำรุด โดยนำ OPP TAPE มาแปะตรงจุดที่ขาด
ข้อเสียของถุงพลาสติก
polyethylene ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงพลาสติกได้มาจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปไม่ยั่งยืน ทำให้ธรรมชาติเสื่อมโทรม พลาสติกที่ใช้แล้วจำนวนน้อยมากที่สามารถนำกลับมาผลิตใหม่ได้ (recycle) ส่งผลให้มีขยะจากถุงพลาสติกจำนวนมาก วิธีการกำจัดถุงพลาสติกในปัจจุบันคือการใช้การฝังกลบซึ่งจะเป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ และสุขอนามัยต่อประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ฝังกลบ นอกจากนี้การที่พลาสติกไม่สามารถจะย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นั่นหมายความว่ามันไม่สามารถที่จะแตกสลายไปเป็นอนุภาคทางอินทรียวัตถุได้ อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์พบว่ามันสามารถสลายได้โดยแสงอาทิตย์ แต่ต้องใช้เวลานานถึง 500-1,000 ปี แสดงว่าขยะพลาสติกจะคงอยู่ในธรรมชาติของเราไปอีกนาน รวมถึงขยะพลาสติกก่อนหน้านี้ย้อนไปอีก 50 ปี ทำให้เราตระหนักได้ว่ามีขยะพลาสติกปริมาณมหาศาลในปัจจุบัน นอกจากนี้ในขบวนการแปรเปลี่ยนรูปพลาสติกโดยการหลอมละลาย และขึ้นรูปใหม่นั้น จะปล่อยสารพิษ เช่น โลหะหนัก สู่บรรยากาศอีกด้วย